ระบบอาวุธที่มีในเกมส์ GO II

ตำราซุนหวู่  กล่าวไว้ว่า   รู้เขา 

แจกความรู้ Galaxy Online II · โพสต์        

รู้เรา รบ กี่ที ก็ชนะ

ถ้าจะให้ดี ชนะโดยไม่ต้องรบ
 ตำราพิชัยสงคราม


บทนี้เราจะศึกษาระบบอาวุธทั้งหมด ว่ามีอะไรบ้าง
เพื่อเป็นความรู้พื้นฐานในการออกแบบ อาวุธที่ใช้ในการติดตั้งใน ยานรบ
ถ้าเราไม่มีความรู้ตรงนี้ ยานที่ออกแบบมาก็คือ

เศษเหล็ก ลอยอยู่ใน อวกาศ










อาวุธแต่ละอย่างจะมีคุณสมบัติในการทำลาย 4 ลักษณะดังนี้

1.  เสียหายทาง   Kinetic   (พลังงานจลน์
2.  เสียหายทาง   Solar   (แสงอาทิตย์)  (พลังงานความร้อน)
3.  เสียหายทาง    Explosive (วัตถุระเบิด)
4. เสียหายทาง     Magnetic (แม่เหล็ก)

    คราวนี้เรามาดู เกราะที่ใช้ในการป้องกัน อาวุธเหล่านี้ 

  1.  Particle Stun Shield:                  ลดความเสียหายจากอาวุธประเภท  Kinetic                                       

  2. Heat Diffusion Shield:                ลดความเสียหายจากอาวุธประเภท  Solar                                              

 3. Space-Time Magnetic Shield:    ลดความเสียหายจากอาวุธประเภท  Magnetic  

 4. Detonator Shield:                        ลดความเสียหายจากอาวุธประเภท   Explosive                         



5. Chrome Armor:               ลดความเสียหายจากอาวุธประเภท  Solar และ Kinetic                                                          .........                                         ในระดับต่ำสุด  

6. Nano Armor:                        ลดความเสียหายจากอาวุธประเภท  Solar และ Explosive         
      ......................................ในระดับต่ำสุด  

7. Regen Armor:                      ลดความเสียหายจากอาวุธประเภท  Kinetic และ Magnetic                                
                        .........................ในระดับต่ำสุด  

8.Neutralizing Armor:         ลดความเสียหายจากอาวุธประเภท  Explosive และ Magnetic                          ................................            ..ในระดับต่ำสุด  

 จะสังเกตุว่า 

• 1-4 เป็นสนามพลัง   Shield    (ต้องใส่เพิ่มเข้าไปในยาน ตอนออกแบบ)
• 5-8 เป็นเกราะ         Armor      (เป็นคุณสมบัติของแต่ละ ยานรบ)
• 
  

            ตัวอย่าง ยานรบที่แบบที่ 5   Chrome Armor

           จากรูป ยาน  เทียแมต 

           จะเป็นประเภทเกราะ   Chrome Armor

          (สามารถเข้าไปดูได้ ที่  Icon รูปเครืองบิน , ออกแบบเรือ)

 ตัวอย่าง ยานรบที่แบบที่ 6 Nano Armor: 

           จากรูป ยาน  วีคส์ 

           จะเป็นประเภทเกราะ   Nano Armor: 

          (สามารถเข้าไปดูได้ ที่  Icon รูปเครืองบิน , ออกแบบเรือ)

 ตัวอย่าง ยานรบที่แบบที่ 7  Regen Armor: 

           จากรูป ยาน  บอมบาเดียร์ 

           จะเป็นประเภทเกราะ   สามารถสร้างใหม่

          (สามารถเข้าไปดูได้ ที่  Icon รูปเครืองบิน , ออกแบบเรือ)

 ตัวอย่าง ยานรบที่แบบที่ 8  Neutralizing Armor:

           จากรูป ยาน  ดิแอช

           จะเป็นประเภทเกราะ   เป็นกลาง

          (สามารถเข้าไปดูได้ ที่  Icon รูปเครืองบิน , ออกแบบเรือ)

     ฉะนั้น ยานรบที่ดี ควรมีทั้ง 2 สิ่งนี้   (จะอธิบายเพิ่มเติม ลูกกิลบางคนอ่านแล้วไม่่เข้าใจ)

     1. ถ้าเราสร้างแบบเรือ ดิแอช  มันจะมี เกราะ แบบเป็น กลาง มาโดยกำเนิด

         ดังนั้น สิ่งที่เราขาดไปคือ

         1.1 Kinetic

         1.2 Solar

          จะต้องเพิ่มเข้าไปตอนออกแบบ โดยใส่ สนามพลัง(Shield) ดังนี้

          1.1  Particle Stun Shield:    (Kinetic)

          1.2  Heat Diffusion Shield:  (Solar)

                เรือที่เราออกแบบมานี้ ก็จะกันอาวุธทุกชนิด โดย  ลดความเสียหายในระดับต่ำสุด  

 ดังนี้เมื่อเราโดนโจมตี   ถ้ายานรบของเราได้ติดตั้งเกราะที่ต่อต้านการทำลายล้างชนิดนั้นๆ  ยานรบของเราก็จะเสียหายน้อย ในทางตรงกันข้าม  ถ้ายานรบไม่มีเกราะที่ต่อต้านอาวุธชนิดนั้น ยานรบก็จะได้รับความเสียหาย  100 % เต็มๆ

 ดังประโยคที่บอกไว้ข้างต้น   เศษเหล็ก ลอยอยู่ใน อวกาศ


 ท่านผู้บัญชาการที่ ฉลาด
 เมื่ออยู่ในสนามรบ เราต้องสังเกตุ อาวุธของ ศัตรูว่าเป็นแบบใด แล้วสั่งการให้ยานรบที่มีเกราะป้องกัน อาวุธชนิดนั้น เข้าไปประจันบาน 

 รู้เขา รู้เรา รบ กี่ที ก็ชนะ   ถ้าจะให้ดี ชนะโดยไม่ต้องรบ

ในทางตรงกันข้าม ถ้าท่านพิจารณาแล้วว่า ยานรบของท่านแพ้ทาง ศัตรู จะอยู่สู้ไปทำไม

กลยุทธ์ในการหงายไพ่ ศัตรูคือ ส่งหน่วยลาดตระเวนออกไปก่อน (กำลังส่วนน้อยเพื่อไปเก็บข้อมูล)

ว่าการรบครั้งนี้ เรามีโอกาสแพ้หรือชนะ

ตำราซุนหวู่  กล่าวไว้ว่า 

นี่คือสุดยอดกลยุทธ์ โดยจำให้แม่นว่า  “ถอยหนีมิผิด เป็นวิสัยแห่งสงคราม”  ทำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายในยามที่เราเป็นฝ่ายเสียเปรียบ และเพื่อชิงโอกาสตอบโตภายหลังมิใช่ถอยหนีอย่างพ่ายแพ้หมดรูป ตีโต้กลับมิได้อีก 

ท่านผู้บัญชาการ ครับ ต่อไปนี้ คือสิ่งที่ท่านต้องทราบเมื่อต้องออกรบให้ชนะ


Turn Base
   ในการสู้กันนั้นจะเป็นแบบ พลัดกันเดิน ดังนั้น หน่วยรบแต่ละตัวจะมี ระยะยิงหรือเดินไม่เ่ท่ากัน
 เช่น พิสัยการยิง   8 ช่อง ระยะเวลาพัก 0  แปลว่า ยิง ได้ทันที พิสัย 8 ช่อง
       พิสัยการยิง 10 ช่อง ระยะเวลาพัก 2  แปลว่า ต้องรอไป 2 รอบถึงยิงได้  พิสัย 10  ช่อง

จำนวน He3 ที่ใช้ในการต่อสู้

    ในการยิงอาวุธแต่ละครั้งจะต้องใช้ He3 เป็นเชื้อเพลิง ซึ้่งจะต้องคำนวนให้ดี

 เช่น คุณตั้งจรวด Frame-III บนเรือของคุณ

       ค่าใช้จ่ายในการยิงจรวด Frame-III  ต้องใช้  He3 =  0.07 

       มีจรวดแบบนี้   5  ชุด 

      ค่าใช้จ่ายในการยิงจรวด  Rocket-III  1 ชุด    ต้องใช้  He3 =  0.35 

      ถ้ามี 100 ลำเรือในการยิงแต่ละครั้ง                      ต้องใช้  He3 =  35 / รอบการยิง

อำนาจทะลุทะลวง

    หลังจากที่ได้วิจัย Technology  Pierce (แทง) ตามที่ได้กล่าวไปใน (เตรียมความพร้อมในการสร้างยาน) อาวุธในชุดนี้ (Series) มันมีความสามารถพิเศษคือ ทำความเสียหายให้กับยานรบที่อยู่ด้านหลังด้วย ถ้าวิจัยถึง 20 % ในการสร้างความเสียหาย ดังนั้น ยานรบที่อยู่ในแนวยิงจะได้ รับความเสียหายนี้ไปด้วย  20 %  แม้ว่าศัตรูจะมี ผบ(ผู้บัญชาการรบ)ที่มี skill ในการหลบหลีก ก็ไม่สามารถ หลบพ้นไปได้    

จะใช้ 0.35 He3 แต่ละครั้งที่คุณยิง หากคุณมี 100 เรือประเภทนี้ยิงแต่ละคนจะมีค่าใช้จ่าย 35 He3

  
ในการสร้างยานรบ จะต้องมีแผนการอย่างดีในการออกแบบสร้าง เพราะว่าพื้นที่ในยานมีจำกัด  การเลือกสรรยุทธ์ภัณท์ที่ติดตั้งลงไปจะต้องเกิดประโยชน์สูงสุด อย่าเอาขยะเข้าไปติดตั้งไว้

สายพันธุ์อาวุธแยกตาม Techonology ที่วิจัย 

1. สายขีปนาวุธ
2. สาย ควบคุม
3. สาย นำวิถี
4. สาย อาวุธบนเรือ

     คุณสมบัติแต่ละสาย

 1. ขีปนาวุธ 

      พิสัยการยิง             :  1 - 2 (Upto 4 ถ้ามีการวิจัยเพิ่ม)

      ระยะเวลาพัก        : 0

     อำนาจทำลาย     : ต่ำ 

     อัตราการใช้ He3  :ต่ำ

     ลักษณะการทำลาย :  Kinetic  /   Solar

       ทะลุทะลวง             :  ทุก Unit ที่อยู่ในแนวระนาบเดียวกับ เป้าหมาย

       การป้องกันจาก  ศัตรู   :  ไม่สามารถป้องกันได้

      การทำลาย     :  โดยตรง  (Attacks target directly)

      ลักษณะทั่วไป   :  เป็นการต่อสุ้ระยะประชิด  อำนาจทำลายต่ำ ยิงได้ทุกตาเดิน

      ประโยชน์         :   Unit ที่อยู่ในแถวหน้าที่โดน เรายิง จะได้รับ ความเสียหาย 50 %

                                 อาวุธที่พัฒนาจนระยะยิงได้ถึง 4 สามารถ ทำลายเกราะได้ด้วย

      ข้อเสีย          :   การใ้ช้อาวุธนี้ ควรมี เครื่องยนต์ที่มีความเร็วสูง (พิสัยใกล้ตามใครไม่ทัน)

                            ดังนี้การใช้อาวุึธนี้ จะต้องลงทุนวิจััยมาก (ทั้งเงินและเวลา) กว่าอาวุธนี้จะมี

                             ประสิทธิภาพ จนน่าพอใจ

                             การติดตั้งอาวุธชนิดนี้ จะกินเนื้อที่ในยานเพราะ 

                             1. เนื้อที่  module อาวุธ

                             2. เนื้อที่  module เครื่องยนต์ (เครื่องต้องแรง)    

                               ที่ต้องใช้ 2 อย่างเพราะต้องการใ้ห้ีมีประสิทธิภาพสูง (เครื่องยนต์ไม่แรงยิงใครไม่ ได้)

                               เมื่อเนื้อที่ไม่พอ ก็ไ่ม่สามารถติดตั้ง Module อื่นได้ เช่น ติด Shield อาวุธชนิดอื่น

                               อาวุธชนิดนี้ไ่ม่สามารถทำลาย ยานรบที่มีสนามพลัง โลหะได้


     สรุป  อาวุธชนิดนี้ จะดีมากถ้ามี เวลาและเงินทุนเพียงพอในการวิจัยขั้นสูง
             แต่ถ้า ไม่มี ก็น่าจะเลือก อาวุธตัวอื่นแทน

2. สายควบคุม

      พิสัยการยิง             :  2 - 5 (Upto 6 ถ้ามีการวิจัยเพิ่ม)

      ระยะเวลาพัก        : 1

     อำนาจทำลาย     : ต่ำ - ปานกลาง

     อัตราการใช้ He3  :ต่ำ

     ลักษณะการทำลาย :  Magnetic  /   Solar

       ทะลุทะลวง             :  ทุก Unit ที่อยู่ในแนวระนาบเดียวกับ เป้าหมาย

       การป้องกันจาก  ศัตรู   :  ไม่สามารถป้องกันได้

      การทำลาย     :  โดยอ้อม  ( Assistant attack )

     ลักษณะทั่วไป   :  เป็นอาวุธทำลายพิสัย กลาง  ซึ่งเป็นพิสัยเหมาะแก่การเข้าประจันบาน

      ประโยชน์         :   เป็นระยะที่สามารถทำการ ต่อสุ้ได้ทั้ง ประชิดและ ระยะไกล

                                 อัตตาการหลบหลีกจะดีมาก เมื่อเสริมกับ ผบ.ที่มี skill เสริมกัน
                                 ถ้ามีการวิจัยที่ดี จะทำให้ ลดความสามารถของ ศัตรูทางด้าน
                                  Hit Rate,อำนาจทำลาย, ความเร็ว และ อื่นๆ 
                                 สามารถทำลายยานศัตรูด้วย อาวุธ ขีปนาวุธ 
                              อำนาจการทำลายทะลุทะลวง เมื่อมีการวิจัยถึง  สามารถ เพิ่มการทำลายได้
                               25-30 %
                               มีอัตราการใช้ He3 ต่ำ เหมาะสำหรับ การทำ ภาะกิจ ที่ท้าทาย
                               อยู่ได้นาน (อึด)

      ข้อเสีย          :   อำนาจการทำลายต่ำ, ดังนั้นควรเพิ่มจำนวนให้มากขึ้น

     สรุป  อาวุธชนิดนี้ มีอัตราการใช้ He3 ต่ำมาก ถ้าเราสามารถทำศึกยืดเยื้อได้ ชนะแน่นอน

              เพราะ ศัตรูไม่มี He3 ใช้ในการต่อสู้ 

3. สายนำวิถี

      พิสัยการยิง             :  5 - 8 (Upto 11 ถ้ามีการวิจัยเพิ่ม)

      ระยะเวลาพัก        : 3

     อำนาจทำลาย     :  ปานกลาง - สูง

     อัตราการใช้ He3  :  ปานกลาง - สูง

     ลักษณะการทำลาย :  Explosive Damage

       ทะลุทะลวง             :   ทุก Unit ที่แรงระเบิดแพร่ไปถึง

       การป้องกันจาก  ศัตรู   :  ยานศัตรูสามารถ Block ได้ (ไม่ได้รับความเสียหาย)

      การทำลาย     :   แพร่กระจาย (  Dispersion Damage )

     ลักษณะทั่วไป   :  เป็นอาวุธทำลายพิสัย ไกล  Unit ที่อยู่ในรัศมี 8 ช่อง จะได้รับความเสียหาย
                                  25 %
    ประโยชน์         :   การทำลายเป็นแบบ รัศมีวงกว้างทำใ้ห้ยานเสียหายจำนวนมาก
                                เพื่อที่จะเสริมการทำลายชนิดนี้ ควรวิจัย เพิ่มจำนวนการทำลาย

      ข้อเสีย          :  อัตราการใช้ He3 สูง เสี่ยงต่อการที่ He3 หมด (เป็นเป้านิ่ง)

                       ยานศัตรูสามารถ Block ได้ (ไม่ได้รับความเสียหาย)

     สรุป  เป็นอาวุธที่มีอำนาจการทำลายล้างสูง แต่ก็มีข้อเสียมากเหมือนกัน

4. สาย อาวุธบนเรือ

      พิสัยการยิง             :  6 -10 (Upto 15 ถ้ามีการวิจัยเพิ่ม)

      ระยะเวลาพัก        : 4

     อำนาจทำลาย     :   สูง

     อัตราการใช้ He3  :  ปานกลาง - สูง

     ลักษณะการทำลาย :  Kinetic, Heat(solar), Explosive and Magnetic

       ทะลุทะลวง             :   ไม่มี

       การป้องกันจาก  ศัตรู   :  ยานศัตรูสามารถ Block ได้ (ไม่ได้รับความเสียหาย)

      การทำลาย     :    ยิงทำลายระยะไกล

     ลักษณะทั่วไป   :  เป็นอาวุธทำลายพิสัย ไกลที่สุด 

                                  

    ประโยชน์         :   สุดยอดอาวุธทำลายแบบ 1-1

                                ความได้เปรียบในช่วงยิงระยะไกลทำให้เสมือนภูมิคุ้มกันให้การโจมตีจากเรือลำอื่น              
                                เพราะศัตรูจะต้องเวลานานกว่าจะถึงตัว
                                ด้วยลักษณะการทำลาย มีถึง 4 อย่าง ทำให้สามารถทำลายยานรบได้ทุกชนิด

                                เมื่อมีการวิจัยเพิ่มเติม สามารถพิ่ม Rate Block (ไม่ได้รับความเสียหาย)  20 %
                                ทำให้เป็นยานรบที่ ทำใด้ทั้ง บุกและตั้งรับ

      ข้อเสีย          :  อัตราการใช้ He3 สูง และ เป็นเป้านิ่ง เมื่อศัตรูอยู่ใกล้ระยะ 1-5
                       ดังนั้นต้องมี ยานรบพิสัย ใกล้คอยช่วยเหลือ

     สรุป  เป็นอาวุธที่มีอำนาจการทำลายล้างสูง แต่ก็ต้องมี unit อืนค่อยคุ้มกัน

อาวุธทุกชนิดมีทั้ง ข้อดีและข้อเสียในตัวเอง ดังนั้น ผู้บัญชาการที่ฉลาด จะต้องจัดขบวณเรื่อเพื่อออกรบให้เหมาะกับ ศัตรูที่ำกำลังจะ เผชิญหน้า

(ต้องสร้างยานรบไว้หลายชนิด (เก็บไว้ใน Stock ) 

ตัวอย่างที่จะทำให้เกิด ความเข้าใจ ยิ่งขึ้น  ( ลูกกิลบางคนนึกภาพไม่ออก)

  สิ่งที่ต้องคำนึงคือ 

1. ยานศัตรู ใช้ อาวุธอะไร

    ถ้าเพือนๆ ได้อ่าน บทความ   มือใหม่หัดขับ ทำตามไม่ต้องคิดมาก   ก็จะรู้เลยว่า พวก ที่มีประสบการณ์

    ส่วนใหญ่ จะเลือกสายอาวุธ อันดับแรกคือ  ขีปนาวุธ 

   ดังนั้นเรามาดูว่า สาย ขีป ลักษณะการทำลาย คือ : Kinetic  /   Solar

   เมื่อเรา ลง ลีค แล้วต้องการ ชนะ คนเหล่านี้ จะต้องเลือก ยานรบที่กัน  พวกนี้ คือ 

                                                             Chrome Armor:  

   เมื่อเราเลือก ยาน ที่มีเกราะ  Chrome เราไม่ต้องใส่  Shield:   เพิ่ม ทำให้มี เนื้อที่ใส่ อาวุธ ได้เพิ่มขึ้น

    อำนาจการยิงก็จะสูงขึ้น (แต่ถ้าจะใส่ สนามพลังเพิ่ม [Shield:] ก็ใส่แต่พวก กัน Kinetic  /   Solar)

   ทำให้เกราะหนา เพิ่ม ทวีคูณ

   แต่ถ้า คู่ ต่อสู้ของเรา เล่น 2 สาย คือ

    1 . สาย ขีป                    ลักษณะการทำลาย :  Kinetic     /   Solar

    2.  สาย บังคับ (เลเซอร์)  ลักษณะการทำลาย :  Magnetic  /   Solar

   สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือ  Magnetic 

   ดังนั้นเราต้องเลือก พิมยาน ที่มีเกราะ Chrome Armor แล้วเสริมด้วย สนามพลัง (shield)  

   Space-Time Magnetic Shield: 

    ก็จะสามารถกัน พวกที่เล่น สาย นี้ได้ แล้ว    เนื้อที่เหลือ บนยาน ก็เอาไปใส่ อาวุธ

   คราวนี้เรามีวิเคราะห์ การออกแบบยาน ของยาน ยอด hit  ยาน มอล  4-1

    ยาน  สแปร์โร่  เป็นประเภท เกราะเป็น กลาง Neutralizing Armor:         
                            ลดความเสียหายจากอาวุธประเภท  Explosive และ Magnetic 

    ดังนั้น มัน แพ้ทาง อาวุธประเำภท 
           1. ขีปนาวุธ          ลักษณะการทำลาย :  Kinetic  /   Solar      
           2. สายควบคุม     ลักษณะการทำลาย :  Solar   
                                               


    แต่การออกแบบยาน ของ  มอล  4-1 มันไม่ได้เสริม สนามพลังที่ขาดไปคือ  Kinetic  /   Solar
   ( ดูจากรูป ด้านบน)


         Particle Stun Shield:                  ลดความเสียหายจากอาวุธประเภท  Kinetic 
         Heat Diffusion Shield:                ลดความเสียหายจากอาวุธประเภท  Solar 

   แต่มันดันใส่โล่ อิออสมา 2 อัน  (ดูจากตารางแสดงรายละเอียดของโล่)
       มันจะลดความเสียหายไปได้  -140 (70*2)
       กันได้ดีกว่า เราใส่ โล่ กัน ความร้อนระดับ 3    เสียอีก  -130 (65*2)
       (เขาจึงนิยม เอามาใส่ในช่วงแรกๆ)

   คราวนี้มาดู อาวุธของ ยาน มอล  4-1 บ้าง

    มันใช้ ระเบิดปืนใหญ่ อัตโมมัติ  เป็น ประเภท  ขีปนาวุธ 
               ลักษณะการทำลาย :  Kinetic  /   Solar

    ดังนั้น เราต้องหายาน ที่ กัน อาวุธประเภทนี้  นั้นก็คือ


             1.  พิมยาน ยานรบที่แบบที่ 5   Chrome Armor
              หรือถ้าไม่มียานแบบนี้  ก็ต้องใส่   สนามพลังที่ขาดไป คือ


             2.  Particle Stun Shield:                  ลดความเสียหายจากอาวุธประเภท  Kinetic 
                  Heat Diffusion Shield:                ลดความเสียหายจากอาวุธประเภท  Solar 
                   เล่น่แรกๆ คงไม่มี โล่ อิออสใช้ 

                      

     
                                                                                ตารางแสดงรายละเอียดของโล่

Module Name		Shield Increase	Add Shield Effectiveness	Damage Reduced	Kinetic Damage Reduced	Heat Damage Reduced	Magnetic Damage Reduced	Explosive Damage Reduced	Shield Restoration (Per Round)
Orbital Shield		+10
Energy Shield Booster-I		+200	+1
Energy Shield Booster-II		+240	+2
Energy Shield Booster-III		+300	+3
Particle Stun Shield-I		+70		-15	-20
Particle Stun Shield-II		+85		-20	-25
Particle Stun Shield-III		+100		-25	-30
Heat Diffusion Shield-I		+50		-15		-30
Heat Diffusion Shield-II		+70		-20		-35
Heat Diffusion Shield-III		+90		-25		-40
Space-Time Magnetic Shield-I		+75		-12			-20
Space-Time Magnetic Shield-II		+90		-15			-25
Space-Time Magnetic Shield-III		+105		-20			-30
Detonator Shield-I		+80		-10				-40
Detonator Shield-II		+100		-15				-45
Detonator Shield-III		+120		-20				-50
Shield Regenerator-I									+40
Shield Regenerator-II									+60
Shield Regenerator-III									+80
Eos Phase Shift Shield-I		+100		-30
Eos Phase Shift Shield-II		+150		-50
Eos Phase Shift Shield-III		+220		-70

      จากตาราง ด้าน บน

       ถ้า ยาน มอล 4-1 โดน  อาวุธ ประเภท ความร้อน  (Solar)  เช่น 

          1. Pulse Laser Transmitter-I                                                                  

 

              จะเป็น ดังนี้

               1.1  ถ้ามันไม่ได้ใส่ โล่ อิออสมา    แรงยิงของ ปืน Pulse Laser  สมมุติ = 100

                      มันก็จะโดนเต็มๆ  100

               1.2  แต่เนื่องจาก มันใส่ โล่ อิออสมา 2 อัน   ดังนั้น มันจะลดความเสียหายไปได้  -140 (70*2)

                     ดังนั้น ปื่นก็จะยิงมันไม่เข้า

               1.3  แต่ถ้ามันไม่มีโล่ อิออส ,แต่ใส่ โล่ Heat diffusion ระดับ 3,   2 อัน   

                      มันจะลดความเสียหายไปได้  -130 (65*2)

                  ดังนั้นจะเห็นได้ว่า  ใส่โล่  อิออส ระดับ 3  อย่างเดียว มัน กัน ดีกว่า  โล่อื่นๆ

                  แม้มันจะไม่มีผลบวกจาก พวก  Kinetic, Heat(solar), Explosive and Magnetic

            สรุปมีโล่ อิออส ก็ลืม พวก โล่ ต่างๆ ไปได้เลย

          สรุป ที่ยกตัวอย่างมานี้ หวังว่า คงเข้าใจ หลัก  การออกแบบยาน กันทั่วหน้า

ขอพลังจงสถิตย์อยู่กับท่าน